ปัจจุบันเทคโนโลยีมีวิวัฒนาการก้าวไกลไปอย่างมากและเทรนด์งานผิวก็กำลังมาแรง นวัตกรรมคอลลาเจนในรูปแบบฉีดที่ช่วยยกกระชับจึงได้ถูกคิดค้นขึ้น นั่นก็คือ โปรแกรม SCULPTRA ที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ทำให้ผิวของเราแลดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากผิวดูสุขภาพดีแล้วยังช่วยปรับให้ผิวอิ่มฟู ผิวแลดูยกกระชับขึ้นอีกด้วย
โปรแกรม SCULPTRA คืออะไร?
โปรแกรม SCULPTRA จากสหรัฐอเมริกา คือ นวัตกรรมคอลลาเจนในรูปแบบฉีด ที่ประกอบด้วย PLLA (Poly-L-Lactic acid) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยเติมเต็มให้ผิวดูอิ่มมีน้ำมีนวล และช่วยยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก หรือแม้กระทั่งรูขุมขน ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี และคงรูปได้ดีกว่าฟิลเลอร์ชนิด HA (Hyaluronic Acid) ทั่วไป
โปรแกรม SCULPTRA ได้รับการอนุมัติจาก FDA ในสหรัฐอเมริกา ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวซึ่งคอลลาเจนในร่างกายคนเราถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก SCULPTRA เป็นสารสังเคราะห์จากพืชที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูโครงสร้างใต้ชั้นลึกของผิว เพื่อช่วยในการยกกระชับ และลดเลือนริ้วรอย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น ผลการวิจัยระบุไว้ว่า SCULPTRA จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิต Collagen type1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่งถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่สามารถผลิต Collagen type1 ได้มากเทียบเท่ากับ SCULPTRA เลยในตอนนี้ โดยเฉลี่ยร่างกายของเราจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงปีละ 1 % ในขณะที่อัตราการสลายคอลลาเจนยังเท่าเดิม ทำให้ปริมาณคอลลาเจนในร่างกายลดลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้ความแข็งแรงของผิวลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น และในที่สุดจะเกิดความหย่อนคล้อย และริ้วรอยตามมา SCULPTRA จึงถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญในการกระตุ้นคอลลาเจนให้กับชั้นผิว ซึ่งจะสามารถช่วยให้ผิวเราแลดูอ่อนกว่าวัย
โปรแกรม SCULPTRA ช่วยอะไรบ้าง?
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน type1 สูงถึง 66.5% ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวอย่างต่อเนื่อง และมีความเป็นธรรมชาติ โดยเติมเต็มคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เรียงตัวแน่นขึ้นอย่างเป็นระเบียบ
- ช่วยลดลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณใบหน้า รูขุมขนกระชับ ผิวเต่งตึงเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
- ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับ รวมไปถึงร่องแก้ม ร่องมุมปาก ร่องลึกต่าง ๆ และช่วยรูปหน้าให้ดีมากยิ่งขึ้น
- ช่วยกำจัดเซลลูไลท์ส่วนเกินในหลาย ๆ ตำแหน่ง เช่น สะโพก ต้นขา ต้นแขน เป็นต้น
- ช่วยคืนความสมดุลให้ผิว ผิวดูอิ่มน้ำ ละเอียด อีกทั้งยังแก้ปัญหาผิวหยาบกร้านได้ด้วย
- มีผลลัพธ์ที่ยาวนานโดยประมาณ 2 ปี โดยผลลัพธ์สามารถเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำหัตถการ เมื่อเวลาผ่านไป อนุภาคของ SCULPTRA จะค่อย ๆ สลายไป เหลือเพียงเส้นใยคอลลาเจนที่มาสะสมแทน จึงสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูโครงสร้างผิวได้อย่างยาวนาน ทำให้ผิวแก่ช้าลงโดยประมาณ 8-10 ปี
- ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิว ส่งเสริมกระบวนการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ผิวให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังปกป้องและสร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้างชั้นผิวภายในอีกด้วย
โปรแกรม SCULPTRA ทำกี่ครั้ง ถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
การทำโปรแกรม SCULPTRA เหมาะกับบุคลที่มีช่วงอายุเกิน 30 ปี ขึ้นไป และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพคอลลาเจนหนาแน่นสูงสุด และยาวนานถึงสองปี แนะนำให้ทำสามครั้ง โดยห่างกันทุก 4-6 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล รวมถึง ดุลยพินิจของแพทย์ด้วย คำนวณโดส ดังนี้
- ช่วงอายุประมาณ 30+ ใช้ประมาณ 3 ขวด แบ่งเป็น 3 ครั้ง ครั้งละ 1 ขวด (ขึ้นกับปัญหาผิวแต่ละบุคคลด้วย) ฉีดทุก 4 สัปดาห์ จนครบ 3 ขวด
- ช่วงอายุ 45+ ใช้ประมาณ 5 ขวด (ขึ้นกับปัญหาผิวแต่ละบุคคลด้วย) โดยแบ่งเป็น 3 ครั้ง ครั้งแรกใช้ 2 ขวด ครั้งที่สองใช้ 2 ขวด และครั้งสุดท้าย 1 ขวด ห่างกันทุก1เดือนติดต่อกันจบครบ 5 ขวด เป็นต้น
วิธีดูแลตัวเองและข้อควรระวังหลังฉีดโปรแกรม SCULPTRA
- ประคบเย็น ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ช่วยบรรเทาอาการบวมได้
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแดดและแสง UV จนกว่าอาการบวมและแดงจะะหายไป
- เว้นการฉีดหรือทำการรักษาหน้าด้วยหัตถการอื่น ๆ หลังจากฉีด SCULPTRA ไปแล้วประมาณ 2-4 สัปดาห์
- สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้ คือการนวดหน้า เพื่อให้อนุภาค PLLA กระจายตัวไปทั่วปริเวณใบหน้า และไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่เราต้องการ
- รับประทานวิตามินซีอย่างน้อยวันละ 1,000 มิลลิกรัม ในช่วง 3 เดือนแรก
- ผู้ที่มีประวัติการเกิดคีลอยด์หรือมีแผลเป็นนูน หรือติดเชื้อที่ผิวหนัง หรือเกิดการอักเสบในตำแหน่งที่ทำควรหลีกเลี่ยงการฉีด SCULPTRA
- ผู้ที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการฉีด SCULPTRA เช่นกัน
สามารถทำโปรแกรม SCULPTRA ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้หรือไม่?
โปรแกรม SCULPTRA สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ ในกลุ่มฉีดเหมือนกัน แต่หากเป็นกลุ่มเลเซอร์ หรือ นวัตกรรมที่ให้พลังงานความร้อน อาจจะต้องเว้นระยะห่างโดยประมาณ 2-4 สัปดาห์ จึงค่อยทำหัตถการอื่น ๆ เนื่องจากการรักษาในปัจจุบันนี้ มีผลิตภัณฑ์ หรือ เครื่องมือทางการแพทย์เยอะมาก คนไข้หลายคนมักจะสับสนว่าควรทำอะไรดี หรือควรทำอะไรก่อน เพื่อให้ใบหน้าของเราดูดี ดูเด็กลง ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าปัญหาของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน คนนี้ทำโปรแกรมนี้ดี แต่อาจจะไม่เหมาะสมในบุคคลอื่นก็เป็นได้ ดังนั้นจึงควรทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด