เมื่อผิวเริ่มหย่อนคล้อยและมีไขมันสะสม เทคโนโลยี Oligio คือทางเลือกใหม่ที่ช่วยยกกระชับหน้า ลดเหนียงโดยไม่ใช้เข็ม ไม่ต้องพักฟื้น บทความนี้ Ployrada จะพาคุณไปรู้จักกับ Oligio ตั้งแต่หลักการทำงาน ข้อดี ผลลัพธ์ที่ได้ ไปจนถึงการเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจก่อนเข้ารับบริการ
Oligio คืออะไร?
Oligio (โอลิจิโอ) คือเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้ารุ่นใหม่จากเกาหลีที่ใช้คลื่นวิทยุแบบ Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz ยิงลึกลงถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า แต่ปลอดภัยกว่าเพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม และไม่ต้องพักฟื้น โดยพลังงานคลื่นจะช่วยกระตุ้นให้คอลลาเจนใต้ผิวเรียงตัวใหม่ และช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิวในคราวเดียวกัน ทำให้ผิวดูแน่น เฟิร์ม และกรอบหน้าชัดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
เครื่อง Oligio ทำงานอย่างไร
เครื่อง Oligio ทำงานโดยการปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุแบบ Monopolar RF ความถี่ 6.78 MHz ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เข็ม คลื่น RF ที่ส่งผ่านจะกระตุ้นให้คอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวเกิดการจัดเรียงตัวใหม่ ส่งผลให้ผิวดูยืดหยุ่น เรียบเนียน และกระชับขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดไขมันสะสมเฉพาะจุด เช่น เหนียงหรือแก้มล่างได้พร้อมกัน หัวเครื่องของ Oligio ยังมาพร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ มีระบบทำความเย็นคงที่ที่ 5°C และระบบสั่นระหว่างทำ เพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บโดยไม่ต้องพึ่งยาชา ผู้ใช้จึงสามารถรู้สึกผ่อนคลายและสบายตลอดการทำหัตถการ
Oligio ดียังไง? ทำไมคนถึงนิยม
Oligio ได้รับความนิยมเพราะเป็นหัตถการที่รวมข้อดีหลายอย่างไว้ในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย การลดไขมันเฉพาะจุดอย่างเหนียงหรือแก้มล่าง และการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวแน่น เรียบเนียนขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เข็มให้เจ็บตัว ขณะทำจะรู้สึกเพียงอุ่น ๆ ที่ผิวเท่านั้น ด้วยระบบทำความเย็นและเซนเซอร์ควบคุมอุณหภูมิที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสบาย ใช้เวลาไม่นานเพียง 20-30 นาที ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
นอกจากนี้ Oligio ยังช่วยให้หน้าเรียว วีเชฟ โครงหน้าชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด หลังทำสามารถใช้ผิวหน้าและแต่งหน้าได้ทันที โดยไม่มีแผลหรืออาการระคายเคือง เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย ไม่เบิร์นผิว ไม่แสบร้อน และไม่จำเป็นต้องทายาชาก่อนทำ ทำให้ลดปัญหาผิวแห้งที่เกิดจากยาชาได้อีกด้วย เห็นผลทันที 20-30% หลังทำ และผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน ช่วยสลายไขมันได้ดี เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาฉีดแฟตบ่อย ๆ และหากทำตามจำนวนช็อตที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวแข็งแรง กระชับ และดูเด็กลงได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องงดอาหารหรือยาที่ทานประจำ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

Oligio เหมาะกับใคร? ปัญหาผิวแบบไหนควรทำ?
Oligio เป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทั้งการยกกระชับและชะลอวัยโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับหลากหลายสภาพผิวและไลฟ์สไตล์ มาดูกันว่ากลุ่มไหนเหมาะกับการทำ Oligio และปัญหาผิวแบบใดที่แก้ได้
กลุ่มไหนเหมาะกับการทำ Oligio
- ผู้ที่มีอายุระหว่าง 25 ปีขึ้นไป ต้องการชะลอความเสื่อมของผิว
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และมีความเสี่ยงต่ำ
- ผู้ที่กลัวเจ็บ กลัวเข็ม หรือกลัวรอยแผลเป็น
- ผู้ที่มีเวลาจำกัด เพราะใช้เวลาทำเพียง 20-30 นาที และไม่ต้องพักฟื้น
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสนใจดูแลผิว ต้องการทดลองหัตถการที่ปลอดภัย
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชาหรือกังวลเรื่องการใช้ยาชา เพราะ Oligio ไม่จำเป็นต้องทายาชาก่อนทำ
- ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวแดง หรือไวต่อการระคายเคือง
ปัญหาผิวที่เหมาะกับการทำ Oligio
- ผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยเฉพาะบริเวณแก้มและกรอบหน้า
- มีริ้วรอยตื้นถึงปานกลาง เช่น รอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผาก รอยตีนกา และร่องแก้ม
- รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน
- ผิวหมองคล้ำ ขาดความกระจ่างใส
- ไขมันสะสมบริเวณแก้ม เหนียง ใต้คาง กรอบหน้าไม่ชัด
- หนังตาตก มุมปากตกเล็กน้อย
- ผิวคอหย่อนคล้อย มีริ้วรอย
- ผิวขาดความยืดหยุ่น ไม่กระชับ
Oligio ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง
Oligio สามารถทำได้หลายตำแหน่งบนร่างกาย ไม่จำกัดแค่บนใบหน้าเท่านั้น โดยตำแหน่งยอดนิยมที่สามารถทำได้ ได้แก่
- บริเวณใบหน้า เช่น หน้าผาก แก้ม กรอบหน้า เหนียง
- รอบดวงตา เช่น ถุงใต้ตา หนังตาตก หางตา
- ลำคอ ที่มีปัญหาริ้วรอยหรือผิวหย่อนคล้อย
- ต้นแขน หรือลำตัวบางส่วนที่มีไขมันสะสมและเริ่มหย่อนคล้อย
แต่ละบริเวณจะใช้จำนวนช็อตและระดับพลังงานที่ต่างกัน แพทย์จะประเมินและออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

ทำ Oligio กี่ช็อต กี่ครั้ง
การทำ Oligio ให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน จะขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปริมาณไขมัน และพื้นที่ที่ต้องการยกกระชับ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินจำนวนช็อตที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ซึ่งสามารถแบ่งระดับโดยประมาณได้ดังนี้
- Oligio 200-450 ช็อต : เหมาะกับคนที่อายุยังน้อย มีไขมันบนหน้าน้อย หรือมีปัญหาเพียงบางจุด เช่น ทำเฉพาะกรอบหน้า เหนียง หรือลำคอ
- Oligio 600-900 ช็อต : เหมาะกับคนที่มีปัญหาปานกลางถึงมาก เช่น ผิวหย่อนคล้อยทั่วใบหน้า และมีไขมันสะสมบางบริเวณ ต้องการผลลัพธ์ที่ครอบคลุมทั่วหน้า
- Oligio 900-1,200 ช็อต : เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมจำนวนมาก ต้องการทั้งยกกระชับและลดไขมันให้เห็นผลชัดเจนทั่วใบหน้า
โดยตามมาตรฐานของคลินิกและโรงพยาบาลชั้นนำ การทำ Oligio ใน 1 ครั้งสามารถทำได้สูงสุด ไม่เกิน 1,200 ช็อต เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา
นอกจากจะประเมินจำนวนช็อตที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลแล้ว จำนวนช็อตที่ใช้แตกต่างกันไปตามบริเวณที่ต้องการรักษาด้วย โดยแพทย์จะเป็นผู้กำหนดให้เหมาะกับลักษณะผิวและเป้าหมายของผู้รับบริการ
- รอบดวงตา : 150-300 ช็อต
- แก้ม : 300-600 ช็อต
- กรอบหน้า : 300-600 ช็อต
- เหนียง : 300-600 ช็อต
- ทั่วใบหน้า : 600-900 ช็อต
เปรียบเทียบ Oligio กับเทคโนโลยียกกระชับอื่น ๆ
หากกำลังมองหาเครื่องยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด (Non-Invasive Lifting) ปัจจุบันมีหลากหลายเทคโนโลยีให้เลือก ซึ่งแต่ละเครื่องมีความลึกของพลังงานที่แตกต่างกัน รวมถึงจุดเด่นที่ตอบโจทย์เฉพาะด้านต่างกันไป ตารางเปรียบเทียบด้านล่างนี้ช่วยให้เข้าใจความแตกต่างระหว่าง Oligio และเครื่องอื่น ๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

สรุปจุดเด่นของ Oligio
- พลังงานลงลึกทั้งชั้น Dermis และ Subcutaneous Tissue
- มีระบบทำความเย็นและระบบสั่นช่วยลดความเจ็บขณะทำ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าและลดไขมันใต้ผิวพร้อมกัน เช่น เหนียง แก้มล่าง
- ให้ผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก และเห็นผลต่อเนื่องสูงสุด 6-12 เดือน
- เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ต้องพักฟื้น
Oligio อยู่ได้กี่เดือน
การทำ Oligio เพียงครั้งเดียวสามารถให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน โดยทั่วไปแนะนำให้ทำซ้ำปีละ 1-2 ครั้ง หรือทุก 6 เดือน เพื่อคงสภาพผิวให้กระชับและคงผลลัพธ์ให้ต่อเนื่องในระยะยาว
Oligio อันตรายไหม
Oligio ไม่ใช่หัตถการที่อันตราย เพราะเป็นเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (RF) แบบ Monopolar ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งจาก KFDA ประเทศเกาหลีใต้ รวมถึง FDA สหรัฐอเมริกา และ CE Mark จากยุโรป ซึ่งรับรองด้านความปลอดภัยในการใช้งานทางการแพทย์ อีกทั้งตัวเครื่องยังมีระบบควบคุมอุณหภูมิและระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ช่วยลดความรู้สึกร้อนระหว่างทำและป้องกันผิวไหม้ จึงสามารถทำได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และไม่ต้องพักฟื้น
หลังทำ Oligio จะระบมไหม อาการเป็นอย่างไร
Oligio เป็นหัตถการที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ทำให้เกิดรอยช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ต้องพักหน้า หลังทำสามารถแต่งหน้า ทาครีม หรือใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยระหว่างทำอาจรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณผิว และหลังทำอาจมีอาการแดงเล็กน้อยในบางจุด ซึ่งมักจะหายไปภายใน 1-2 ชั่วโมง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวโดยไม่สะดุดกิจวัตรประจำวัน
อยากลดกราม เลือก Oligio หรือ โบท็อก?
หากมีกล้ามเนื้อกรามเด่นจากการใช้งานมาก เช่น การเคี้ยวหรือกัดฟันแรง ๆ เป็นประจำ โบท็อกจะเหมาะสำหรับช่วยคลายกล้ามเนื้อให้ใบหน้าเรียวลงอย่างเป็นธรรมชาติ แต่หากปัญหาเกิดจากการสะสมของไขมันบริเวณกรามร่วมกับผิวหย่อนคล้อย การทำ Oligio จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะช่วยทั้งสลายไขมันและยกกระชับผิวได้พร้อมกัน
อยากลดไขมัน เลือก Oligio หรือ ฉีดแฟต?
หากเป้าหมายคือการสลายไขมันเฉพาะจุด เช่น แก้ม หรือเหนียง โดยไม่เน้นการยกกระชับผิว เมโสแฟตจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า แต่ถ้าต้องการทั้งลดไขมันและยกกระชับผิวในคราวเดียวกัน Oligio จะตอบโจทย์ได้ครบกว่า เพราะสามารถจัดการทั้งไขมันสะสมและความหย่อนคล้อยได้พร้อมกัน
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Oligio
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน โดยเลือกที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป และหลีกเลี่ยงการออกแดดจัด
- งดทำทรีตเมนต์หรือเลเซอร์ที่รุนแรงอย่างน้อย 7 วันหลังทำ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้ดี
- หลีกเลี่ยงการขัดหน้า เลเซอร์ ทรีตเมนต์ร้อน หรือ RF ที่ลงลึกถึงชั้นผิว อย่างน้อย 1 เดือน
- งดซาวน่า อบไอน้ำ และออกกำลังกายหนักที่ทำให้ผิวเผชิญความร้อนสูง ประมาณ 2 สัปดาห์
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบหรือผลข้างเคียง

ทำ Oligio ที่ไหนดี? สิ่งที่ควรเช็กก่อนตัดสินใจ
การเลือกคลินิกสำหรับทำ Oligio เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ควรพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน ดังนี้
- ใช้เครื่องแท้จากเกาหลีเท่านั้น ตรวจสอบว่าเครื่อง Oligio ที่ใช้เป็นของแท้ ได้รับการรับรองจาก KFDA (Korea Food and Drug Administration) เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด
- แพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นผู้ทำหัตถการ ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ด้านความงามที่ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์โดยตรงกับเครื่อง Oligio เพื่อการออกแบบรูปหน้าที่แม่นยำและเหมาะกับแต่ละบุคคล
- มีรีวิวจากผู้ใช้จริง พร้อมภาพก่อน-หลังที่ตรวจสอบได้ ควรดูตัวอย่างเคสจริงที่ทำกับคลินิกนั้น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ และต้องมีความโปร่งใสในการนำเสนอผลลัพธ์
- บริการหลังทำต้องครบถ้วน ควรมีการติดตามผลหลังทำหัตถการ เช่น นัดตรวจผิว ติดตามผลลัพธ์ หรือมีช่องทางให้ปรึกษาแพทย์กรณีเกิดผลข้างเคียง
- สถานที่สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบการที่ถูกต้อง เครื่องมือได้รับการฆ่าเชื้อ และมีสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัย
- มีการประเมินเคสก่อนทำโดยแพทย์ ไม่ควรทำโดยไม่มีการวิเคราะห์ปัญหาผิวหรือวางแผนการรักษาก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยในระยะยาว
- มีรายละเอียดโปรแกรมและราคาชัดเจน คลินิกที่ดีจะต้องมีการแจ้งราคา จำนวนช็อต และแผนการรักษาอย่างโปร่งใส ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
จะเห็นได้ว่า Oligio เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การยกกระชับผิว ลดไขมันเฉพาะจุด และฟื้นฟูโครงหน้าให้กระชับได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องเจ็บตัวหรือพักฟื้น หากคุณกำลังมองหาทางเลือกที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่เหมาะกับคุณ อย่ารอช้า! ปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้ฟรี เพียงแอดไลน์ @ployrada เพื่อรับสิทธิประเมินเคสเบื้องต้น พร้อมโปรโมชั่นพิเศษที่รอคุณอยู่