การดูแลผิวพรรณให้กระจ่างใสสุขภาพดี เป็นเทรนด์ความงามที่ไม่เคยตกยุค และหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคนี้ก็คือ ดริปวิตามิน ซึ่งหลายคนอาจเคยได้ยินหรือเคยเห็นตามคลินิกเสริมความงามหรือโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่า ดริปวิตามิน ทำให้ผิวขาวผิวใสจริงไหม ดริปวิตามินช่วยเรื่องอะไรบ้าง และที่สำคัญ ดริปวิตามินผิว อันตรายไหม และต้อง ดริปวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล วันนี้ Ployrada มีคำตอบมาฝาก
ดริปวิตามินคืออะไร
ดริปวิตามิน (Intravenous Vitamin Therapy) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ IV drip คือการให้สารอาหาร วิตามิน หรือแร่ธาตุต่างๆ เข้าสู่ร่างกายผ่านทางสายน้ำเกลือโดยตรงเข้าสู่เส้นเลือด ซึ่งต่างจากการรับประทานอาหารหรืออาหารเสริมที่ต้องผ่านกระบวนการย่อยในระบบทางเดินอาหารก่อน การดริปวิตามินจึงช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินได้มากกว่าและรวดเร็วกว่า โดยวิตามินที่นิยมใช้ในการดริปส่วนใหญ่ ได้แก่ วิตามินซี กลูต้าไธโอน วิตามินบีรวม และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิว ลดความหมองคล้ำ และเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ดริปวิตามินช่วยเรื่องอะไรบ้าง
หลายคนสงสัยว่า ดริปวิตามินช่วยเรื่องอะไรบ้าง คำตอบคือ ดริปวิตามินไม่ได้จำกัดแค่เรื่องความงามเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการบำรุงสุขภาพโดยรวมด้วย โดยการดริปวิตามินจะมีหลายสูตร ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ความต้องการแก้ปัญหาในด้านใด ซึ่งประโยชน์ที่เห็นได้ชัดจากการดริปวิตามิน มีดังนี้
1. ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
หนึ่งในเหตุผลยอดนิยมของการดริปวิตามินคือเพื่อความสวยงาม โดยเฉพาะเพื่อให้ผิวดูขาวกระจ่างใส เสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิว ลดความหมองคล้ำของผิว และต้องการให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ผิวเรียบเนียนขึ้น
2. ฟื้นฟูร่างกายและระบบภูมิคุ้มกัน
วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเพิ่มความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสการเจ็บป่วย โดยเฉพาะในคนที่พักผ่อนน้อยหรือมีภาวะเครียดสะสม
3. ลดความเหนื่อยล้า
วิตามินบีรวมสามารถช่วยลดอาการเหนื่อยล้าและเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย โดยเฉพาะในผู้ที่ทำงานหนักหรือพักผ่อนน้อย
4. ล้างสารพิษในร่างกาย
บางสูตรของการดริปวิตามินจะมีส่วนช่วยล้างสารพิษในตับ ลดการสะสมของไขมันที่ตับ และกระตุ้นการขับของเสีย
5. ช่วยลดอาการอักเสบ
มีวิตามินบางชนิดที่ช่วยลดการอักเสบ เช่น วิตามินบี6 และแมกนีเซียม ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสิวหรือผิวอักเสบ

ดริปวิตามิน ขาวจริงไหม
ดริปวิตามิน ขาวจริงไหม เป็นคำถามยอดฮิตที่หลายคนอยากรู้ ความจริงคือการดริปวิตามินไม่ได้ทำให้ผิว “ขาวถาวร” แบบที่เข้าใจกัน แต่สามารถช่วยให้ผิว “กระจ่างใส” และดูสุขภาพดีขึ้น
โดยเฉพาะวิตามินซีและกลูตาไธโอน มีส่วนช่วยในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นตัวการทำให้ผิวหมองคล้ำ จึงทำให้ผิวดูขาวใสขึ้นได้ในระยะหนึ่ง แต่ผลลัพธ์จะแตกต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับ สภาพผิวเดิม , การใช้ชีวิตประจำวัน , ปริมาณแสงแดดที่ได้รับ และความถี่ในการดริปวิตามิน
ดริปวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล
คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ดริปวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล คำตอบขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการตอบสนองของร่างกายแต่ละคน แต่โดยทั่วไป:
- 1–2 ครั้งแรก : ร่างกายจะเริ่มรู้สึกสดชื่น ผิวดูชุ่มชื้นขึ้น
- 3–5 ครั้ง : เริ่มเห็นผิวกระจ่างใส สีผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- 6 ครั้งขึ้นไป : ผิวอาจดูขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และสุขภาพผิวโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรดริปวิตามินบ่อยเกินไป ควรเว้นระยะห่างระหว่างแต่ละครั้ง เช่น สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ร่างกายมีเวลาปรับตัว ดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่และไม่เกิดผลข้างเคียง รวมไปถึงอย่าลืมดูแลสุขภาพควบคู่ เช่น ดื่มน้ำมากๆ, พักผ่อนให้เพียงพอ, ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ หลังจากเห็นผลแล้ว อาจลดความถี่ลงเป็นเดือนละครั้งเพื่อคงสภาพผิว แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อออกแบบโปรแกรมที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณ
ดริปวิตามินผิว อันตรายไหม
อีกหนึ่งข้อกังวลสำคัญคือ ดริปวิตามินผิว อันตรายไหม? ความจริงแล้ว การดริปวิตามินสามารถปลอดภัยได้ หากทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต วัตถุดิบที่ใช้ต้องผ่านการรับรองจาก อย. และมีการประเมินสุขภาพของผู้รับบริการก่อนทำ
แต่อย่างไรก็ตาม หากดริปในคลินิกเถื่อน หรือใช้สารที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดผลข้างเคียง เช่นอาการแพ้ยา หน้ามืด ระคายเคืองบริเวณที่ฉีด ความดันต่ำ และไตทำงานหนักจากการขับสารส่วนเกิน ฯลฯ นอกจากนี้แล้วการดริปวิตามินมากเกินไปอาจส่งผลเสียในระยะยาว เช่น ตับทำงานหนัก หรือการสะสมของสารบางชนิดในร่างกาย ดังนั้น หากคุณสนใจการดริปวิตามิน ควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาต และทำโดยบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น
ดริปวิตามิน เหมาะกับใคร
แม้ดริปวิตามินจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน มาดูกันว่าใครบ้างที่เหมาะสมกับการดริป และใครที่ควรหลีกเลี่ยง
ดริปวิตามินเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่พักผ่อนน้อย นอนดึก เครียดง่าย
- ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- คนที่ต้องการบำรุงผิวจากภายใน
- ผู้ที่ฟื้นตัวจากการป่วยหรือต้องการฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็ว
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ มีปัญหาภูมิแพ้ หรือเป็นหวัดบ่อย
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้นจากภายใน
กลุ่มที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคไต ตับ หัวใจ
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ยา หรือวิตามินบางชนิด

วิธีดูแลตัวเองหลังดริปวิตามิน
ถึงแม้ว่าการดริปวิตามินจะไม่ใช่หัตถการที่ซับซ้อน แต่การดูแลตัวเองหลังดริปก็มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนและปลอดภัย
1. ดื่มน้ำให้มากขึ้น
หลังจากที่ดริปวิตามินเสร็จ ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ประอย่างน้อย 2 ลิตร เพื่อช่วยลำเลียงวิตามินเข้าสู่เซลล์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
2. พักผ่อนให้เพียงพอ
ควรนอนหลับอย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูและดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่
3. หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
ผิวที่เพิ่งได้รับการบำรุงมาอาจไวต่อแสงแดดมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดแรง ๆ และทาครีมกันแดดที่มี SPF สูงเสมอ
4. งดแอลกอฮอล์และบุหรี่
ในช่วงแรกหลังดริปวิตามินควรงดการสูบบุหรี่ รวมไปถึงงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทั้งสองอย่างนี้จะลดประสิทธิภาพของวิตามินที่ดริปเข้าไป และกระตุ้นให้อนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มขึ้น
5. สังเกตอาการผิดปกติ
หลังจากที่ดริปวิตามินเสร็จอาจมีรอยเข็ม หรือรอยบวมฉ่ำได้ โดยรอยนั้นจะหายได้เอง รวมไปถึงสีของปัสสาวะจะมีสีเข้ม หรือมีกลิ่่นวิตามิน โดยเป็นอาการปกติที่ร่างกายขับออก แต่ถ้าหากร่างกายมีผื่นคัน อาเจียน หน้ามืด หรือเจ็บบริเวณเข็ม หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ดริปวิตามินที่ Ployrada มีกี่สูตรช่วย เรื่องอะไรบ้าง
โดยที่ Ployrada Clinic เรามีโปรแกรมดริปวิตามินผิวที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกปัญหาผิว ทั้งเรื่องความกระจ่างใสของผิว การต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย ดีท็อกภายในร่างกาย มีด้วยกันทั้งหมด 7 สูตร ดังนี้
1. Aurawhite Booster (วิตามินผิวขาว กระจ่างใส X5)
วิตามินบำรุงช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม เปล่งปลั่ง
2. Super Aurawhite Booster (วิตามินผิวขาว กระจ่างใส X10)
วิตามินผิวใสสูตรเข้มข้น ช่วยชะลอวัย ต่อต้านอนุมูลอิสระ
3. Relax&Sleep (วิตามินรวม)
ช่วยลดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว ปวดประจำเดือน บรรเทาอาการภูมิแพ้ ไมเกรน นอนไม่หลับ
4. Brain Booster (วิตามินบำรุงสมอง)
เพิ่มความสดชื่น ลดความอ่อนล้า
5. Immune Booster (P) (วิตามินซีเข้มข้น)
ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิต้านทาน บรรเทาอาการภูมิแพ้และโรคภูมิ ทำลายตัวเอง ลดการเกิดสิว และผื่นคันตามผิวหนัง
6. Liver Booster (วิตามินฟื้นฟูตับ)
สร้างเอนไซม์ที่ช่วยให้ตับขับสารพิษ แอลกอฮอล์และยา ออกจากร่างกาย ลดการสะสมของไขมันที่ตับ รวมถึงช่วยลดอาการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด
7. Anti-Acne Booster (AAB) วิตามินรักษาสิว
วิตามินผิวช่วยในการเติมอาหารผิวในร่างกาย ป้องกันความแห้งหรือความมันมากเกินไปของผิว

การดริปวิตามิน เป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลผิวที่เห็นผลไว และให้ประโยชน์หลายด้าน ทั้งเรื่องผิวพรรณ ภูมิคุ้มกัน และสุขภาพโดยรวม แต่ต้องทำอย่างถูกวิธี เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด อย่างที่ Ployrada Clinic เรามีโปรแกรมดริปวิตามินที่หลากหลาย พร้อมโปรโมชั่นราคาสุดพิเศษ ที่ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากสนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองคิวปรึกษาคุณหมอฟรี เพียงแอดไลน์ @ployrada ได้เลย